ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 2567
31 พฤษภาคม 2567 : องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปีเป็น วันงดสูบบุหรี่โลก โดยในปี 2567 นี้ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบ รณรงค์ภายใต้หัวข้อ “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อสร้างความตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
อันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
- สารเคมีอันตราย: บุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีอันตรายมากกว่า 7,000 ชนิด หลายชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจ สมอง และระบบภูมิคุ้มกัน
- การเสพติด: บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติด ทำให้ผู้ใช้เกิดอาการอยากสูบ หยุดสูบยาก ส่งผลต่อสมองและพัฒนาการของเด็กและเยาวชน
- ผลต่อสุขภาพจิต: การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และปัญหาพฤติกรรม
- อุบัติเหตุ: แบตเตอรี่บุหรี่ไฟฟ้าอาจระเบิด ส่งผลร้ายแรงต่อผู้ใช้
- ผลต่อสิ่งแวดล้อม: บุหรี่ไฟฟ้าสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อเสนอแนะ
- ผู้ปกครอง: ควรสอนให้เด็กและเยาวชนเข้าใจถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ดูแลเอาใจใส่ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการไม่สูบบุหรี่
- สถานศึกษา: ควรมีมาตรการห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าภายในสถานศึกษา จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: ควรเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
- ประชาชน: ควรมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้สังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า แจ้งเบาะแสการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
การเลิกสูบบุหรี่
การเลิกสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ เช่น การใช้ยา การบำบัดทางพฤติกรรม การใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน ผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่สามารถขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือได้จากสถานพยาบาล สายด่วนเลิกบุหรี่ 1613 หรือเว็บไซต์ https://thaihealth.or.th/
ร่วมรณรงค์ให้สังคมไทยปลอดบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็กและเยาวชน และคนไทยทุกคน